ดูแลรักษาทุกปัญหาโรคกระดูก




อาการของโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท

อาการอาจแสดงออกได้ทั้งบริเวณหลังและขา คนทั่วไปมักเข้าใจว่ามีเพียงอาการปวดหลังอย่างเดียว ที่จริงแล้วอาการที่ขานั้นสำคัญและจำเพาะเจาะจงกับโรคนี้มากกว่า นั่นแสดงถึงว่าเกิดการรบกวนเส้นประสาทสันหลังที่วิ่งไปเลี้ยงที่ขาแล้ว หมอนรองกระดูกที่เคลื่อนออกมามักทำให้เกิดอาการแบบฉับพลันเพราะมีการอักเสบที่รุนแรง
อาการที่หลัง: ปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง อาจมีอาการที่หลังเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มักมีอาการในท่านั่ง หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้าซึ่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกได้รับแรงกดทับมากที่สุด
อาการที่ขา: อาการแสดงที่ขามีได้ 3 แบบ คือ อาการปวด ชา หรือการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
อาการปวดหรือชาขาที่เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมีลักษณะคือ มีอาการตามแนวที่เส้นประสาทวิ่งไป สามารถปวดได้ตั้งแต่บริเวณเอว ต้นขา น่อง ไปจนถึงบริเวณเท้าและนิ้วเท้าได้ การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อก็มีลักษณะคล้ายอาการปวดและชา คือจะมีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมัดที่เลี้ยงด้วยเส้นประสาทเส้นที่ถูกกดทับนั้น

 สาเหตุของโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
  • การยกของหนักด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้องบ่อยๆ
  • น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
  • นั่งทำงานด้วยอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องนานๆ
  • อุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลัง

 การรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท

  • รับประทานยาแก้อักเสบหรือยาคลายกล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาอาการปวด
  • กายภาพบำบัด
  • การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงประสาท
  • การผ่าตัดหมอนรองกระดูกผ่านกล้องเอ็นโดสโคป
  • การผ่าตัดหมอนรองกระดูกด้วยกล้องจุลทรรศน์ 
  • การผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกโดยใช้คอมพิวเตอร์นำวิถี










ข้อเข่าเสื่อม...หากรีบรักษา ก็อาจไม่ต้องผ่าตัด



โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดจากอะไร

ผู้ป่วยที่มีอาการปวดข้อเข่า ปวดขา ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจาก “ข้อเข่าเสื่อม” โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อเสื่อมสภาพและสึกหรอ ทำให้กระดูกบริเวณข้อต่อเสียดสีกันจนเนื้อกระดูกเสื่อมสภาพ เวลาเดินหรือยืนนานๆ ก็จะเริ่มปวด

ปัจจัยที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อม

  • อายุ : อายุมากมีโอกาสเป็นมาก เนื่องจากใช้งานข้อเข่าเป็นเวลานาน
  • เพศ : เพศหญิงเป็นโรคเข่าเสื่อมมากกว่าเพศชาย 2 เท่า
  • น้ำหนัก : ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก มีโอกาสข้อเข่าเสื่อมได้มากกว่า
  • พฤติกรรม : ผู้ที่นั่งยองๆ นั่งคุกเข่า นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งพับเพียบนานๆ
  • เล่นกีฬาที่มีการปะทะ : มักเกิดการปะทะบริเวณหัวเข่า ทำให้หัวเข่าบาดเจ็บ เป็นเหตุให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น
  • อุบัติเหตุ : ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุมีการกระแทกที่ข้อเข่า หรือกระดูกข้อเข่าแตก เอ็นฉีก ทำให้เกิดข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น
  • ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก : คนที่ไม่ออกกำลังกายมักมีกล้ามเนื้อข้อเข่าและกระดูกข้อเข่าที่ไม่แข็งแรง

สัญญาณอันตรายของโรคข้อเข่าเสื่อม

  • เวลาขยับข้อเข่าขึ้นลงจะขยับได้ไม่สุด เนื่องจากปวดข้อ
  • เวลาขึ้นหรือลงบันได หรืองอเข่ามีเสียงกุบกับ
  • กินยาแก้ปวดข้อเกิน 3 เดือน แต่อาการไม่ดีขึ้น

อาการสำคัญของโรคข้อเข่าเสื่อม

ในระยะแรกจะมีอาการปวดข้อเข่าเล็กน้อย มีข้อฝืดขัด เมื่อขยับมีเสียงดัง พอขยับหรือเดินก็จะปวดมากขึ้น แต่จะทุเลาลงเมื่อได้พักขา อาการปวดจะค่อยๆ รุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป การเหยียดเข่าหรืองอเข่าเริ่มทำได้ไม่สุดเพราะมีการยึดติดของข้อเข่า มีอาการเข่าหลวมทำให้เดินล้มบ่อย มีเสียงดังกรอบแกรบในเข่าซึ่งเกิดจากการเสียดสี เข่ามีรูปร่างผิดปกติ โก่งงอผิดรูป อาจโก่งด้านนอกหรือโก่งด้านใน หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ด้านกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้อง

การวินิจฉัย โรคข้อเข่าเสื่อม

แพทย์จะประเมินจากประวัติความเจ็บป่วย ลักษณะการเดิน ตรวจดูรูปร่างของเข่า ลักษณะกล้ามเนื้อขาและรอบเข่า สังเกตอาการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน ดูการเคลื่อนไหวของข้อ การงอ การเหยียด และฟังเสียงกรอบแกรบ ร่วมกับการทำเอกซเรย์ CT scan หรือ MRI ร่วมด้วย

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

การรักษาโรคเข่าเสื่อมมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย ระยะของโรค โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอาการปวดข้อเข่า ชะลอการดำเนินโรค ฟื้นฟูการทำงานของข้อเข่า ป้องกันภาวะแทรกซ้อน เพื่อให้ผู้ป่วยดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ หรือใกล้เคียงปกติมากที่สุด 













รีวิวและประสบการณ์ผู้ใช้จริง

















ความคิดเห็น